ผู้ที่ประสบปัญหาการฟัง การได้ยินมีความเสี่ยงเป็นโรคสมองเสื่อมและภาวะความจำเสื่อมเพิ่มขึ้น 2 เท่าเมื่อเทียบกับคนปกติ
ส่งเสียง→ไม่ได้ยิน→สมองขาดการกระตุ้นจากเสียง→พยายามฟัง(สมองทำงานหนักเพื่อให้เข้าใจ)→หูตึง→ สมองเสื่อม
วิธีสังเกตุ
- ฟังผู้อื่นพูดไม่ค่อยชัดหรือถามหลายๆครั้ง ต้องฟังซ้ำ
- เปิดทีวีเสียงดัง จนคนอื่นทักว่าเสียงดังเกินไปไหม
- ใช้วิธี Finger rabbing teat(คัดกรองการได้ยิน) โดยถูนิ้วโป้งกับนิ้วชี้และนิ้วกลาง ให้ห่างจากหูประมาณ 1 ฟุตในห้องเงียบๆ ถ้าไม่ได้ยินเสียงถูนิ้วแสดงว่าหูเริ่มตึง
- ใช้ Application Ear test by ear tone เพื่อทดสอบการได้ยิน
กลุ่มเสี่ยง
- อายุ 50 ปีขึ้นไป
- เคยเป็นโรคเยื่อหุ้มสมองอักเสบ
- เคยฉายรังสีบริเวณศีรษะและลำคอ
- กรรมพันธุ์ มีประวัติคนในครอบครัวหูตึง
- มีโรคเกี่ยวกับระบบหัวใจและหลอดเลือด
- ผลข้างเคียงของยาที่มีผลต่อประสาทหู เช่น ยาปฎิชีวนะบางชนิด ยาต้านแบคทีเรีย
- ทำกิจกรรมเสียงดังโดยไม่มีการป้องกัน เช่น จุดประทัด ยิงปืน ทำงานในโรงงานอุตสาหกรรม