การปวดศีรษะแบบไมเกรนเป็นความผิดปกติในระบบประสาท อาจมีปัจจัยทางพันธุกรรมร่วมด้วย พบได้บ่อยรองลงมาจากการปวดที่เกิดจากความเครียด พบมากในผู้หญิง มักมีอาการครั้งแรกช่วงวัยรุ่น
จากหลอดเลือดในสมองมีการหดตัวและเกิดจากการกระตุ้นเส้นประสาทสมองคู่ที่ 5 หลังจากนั้น ร่างกายมีการตอบสนองโดยการทำให้หลอดเลือดขยายตัว ซึ่งการขยายตัวของหลอดเลือดนี้เป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดอาการปวดศีรษะ ลักษณะสำคัญคือ มักมีอาการปวดข้างเดียวอย่างรวดเร็ว มีอาการปวดตื้อๆ ปวดมาก ปานกลาง ถึงรุนแรงขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล อาการปวดในผู้ใหญ่อยู่ที่ 4 - 72 ชั่วโมง ส่วนในเด็ก 2- 48 ชั่วโมง
นอกจากนี้ยังพบอาการเบื่ออาหาร และคลื่นไส้ ผู้ป่วยไมเกรนส่วนใหญ่มักอยากอยู่ในห้องมืดและเงียบซึ่งบางรายอาจจะทำให้อาการปวดดีขึ้น
ทางการแพทย์แผนไทยเชื่อว่า ไมเกรน หรือ ลมปะกัง มักมีความผิดปกติของธาตุไฟและธาตุลมกำเริบในช่วงบนของร่างกาย คือ บริเวณศีรษะ ทำให้ผู้ป่วยมีอาการปวดศีรษะ ปวดตา การมองเห็นผิดปกติ คลื่นไส้ วิงเวียน
2 ปัจจัยสำคัญที่กระตุ้นให้เกิดอาการปวด
- ปัจจัยภายใน เช่น การอดนอน นอนน้อยไป หรือนอนมากไป อดอาหาร ฮอร์โมนช่วงมีประจำเดือน เหนื่อยล้า เครียด หดหู่ ภาวะซึมเศร้า
- ปัจจัยภายนอก เช่น สภาพอากาศ อุณหภูมิ แสง เสียง กลิ่น ควันบุหรี่ เบอร์เกอรี แป้งขัดขาว แอลกอฮอร์แชมเปญ หัวหอม ของหมักดอง ของแปรรูป ชา กาแฟ หรือผลข้างเคียงของยาบางชนิด เช่น ยาคุมกำเนิด ยาโรคหัวใจ ยาฆ่าเชื้อ ยาต้านโรคซึมเศร้า วิตามินเอขนาดสูง
ข้อแนะนำการบำบัดด้วยตัวเองแบบง่ายและปลอดภัย ด้วยการใช้ธรรมชาติบำบัด
1. น้ำมันหอมระเหย(Essential Oil)
น้ำมันหอมระเหยมีสรรพคุณช่วยให้การสื่อสารกันระหว่างระบบประสาทต่างๆ ทำงานได้ดีขึ้น ทั้งยังสามารถปรับสมดุลของอารมณ์และจิตใจ เช่น เปปเปอร์มินต์ (peppermint) ช่วยทำให้กระปรี้กระเปร่า ลาเวนเดอร์ (lavender) ช่วยคลายกังวล ลดความเครียดและอาการซึมเศร้า เมื่อมีอาการปวด ให้ผสมน้ำมันหอมระเหยทั้งสองชนิดนี้อย่างละ 1 หยด ผสมกับน้ำมันอัลมอนด์หอม (sweet almond) 2 ช้อนชา นวดบริเวณขมับและต้นคอเบาๆ ถ้ามีอาการเครียดจัดต่อเนื่อง ให้ใช้น้ำมันหอมระเหยลาเวนเดอร์หรือมาร์จอแรม (marjoram) ประมาณ 2-3 หยด ผสมน้ำ จุ่มผ้าบิดหมาดๆ นำมาประคบบริเวณขมับและหน้าผากทุกวัน
2. ใช้ประคบร้อน-ประคบเย็น
- ประคบเย็นที่หน้าผากหรือคอ ถ้าอาการไม่บรรเทา ให้ประคบร้อนและเย็นพร้อมกัน โดยประคบเย็นที่หน้าผากและประคบร้อนที่ท้ายทอย ประคบสลับที่กันทุก 2 นาที 4-5 ครั้ง
- ใช้ผ้าอุ่นจัดวางที่ท้ายทอย แล้วนวดเบาๆที่คอ ไหล่ และสะบัก แล้วใช้ผ้าชุบน้ำประคบที่ขมับ แล้วใช้ผ้าชุบน้ำเย็นประคบอีกครั้ง
3. นวดกดจุด การกดจุดมีอยู่ 3 จุด คือ
- มือ กดตรงเนินเนื้อที่เชื่อมระหว่างหัวแม่มือและนิ้วชี้ ในแนวตรงสู่กระดูกนิ้วหัวแม่มือ
- คอ คอด้านบน ให้กดย้อนขึ้นไปทางใต้กะโหลกศีรษะข้างๆ กระดูกคอ
- เท้า กดที่เนินเนื้อที่เชื่อมต่อหัวแม่เท้ากับนิ้วชี้ กดไปทางฝ่าเท้า
4. สมุนไพรแก้ปวดไมเกรน
- ใบบัวบก แก้ช้ำใน ฟกช้ำได้ดี แก้ร้อนในกระหายน้ำ ลดอาการปวดศีรษะข้างเดียว บำรุงสมอง แก้ความดันโลหิตสูง แก้อ่อนเพลีย เมื่อยล้า บำรุงหัวใจ และขับปัสสาวะ อาจใช้ต้นสดของบัวบก 2 กำมือ คั้นทานวันละ 2 ครั้ง เช้า – เย็น หรือทานสดก็ได้
- ขิง ลดอาการปวดไมเกรนได้ดี ไม่พบผลข้างเคียงจากการทานติดต่อกันในระยะยาว เนื่องจากขิงมีฤทธิ์ในการลดการอักเสบ ลดอาการปวดในร่างกาย ลดการสร้างสารพรอสตาแกลนดิน ที่ทำให้เกิดอาการปวดและอักเสบ และยังช่วยลดอาการคลื่นไส้วิงเวียนได้ดี โดยการดื่มน้ำขิงอุ่นๆ หรือรับประทานอาหารที่ใช้ขิงเป็นส่วนประกอบอย่างสม่ำเสมอ
- บวบ ใช้รากสด หนักประมาณ 1 ขีด ต้มน้ำใส่เกลือเล็กน้อย ดื่มเป็นน้ำชา
- มะตูมนิ่ม ใบ ดอก ลูก ราก ต้มรับประทานก่อนอาหาร 3 เวลา หรือดื่มเป็นชาช่วยแก้ปวดศีรษะ ตาลาย