Mueang Nakhon Si Thammarat
Mon - Thu : 09.00 AM - 05.00 PM
+6675 432 297

"กรดไหลย้อน" โรคฮิตคนเมือง

     วิถีชีวิตที่เปลี่ยนแปลง เร่งรีบ ประกอบกับอุปนิสัยการกิน ดื่มแอลกอฮอล์ กินอาหารมัน รสจัด น้ำหนักเกิน ความเครียดทางอารมณ์ ใช้ยาแก้ปวดและยาลดกรดเป็นประจำ สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นสาเหตุสำคัญทำให้โรคกรดไหลย้อน

     กรดไหลย้อน(Gastoresopageal Reflux Disease :GERD) เป็นภาวะที่มีน้ำย่อยจากกระเพาะอาหารไหลย้อนขึ้นไปในหลอดอาหาร ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นกรดในกระเพาะอาหาร หรือจากอาหารที่มีรสเปรี้ยว ถ้าย้อนมาจากลำไส้เล็กหรือน้ำดีจะมีรสขม(พบได้น้อย) อาจทำให้หลอดอาหารอักเสบ และเกิดแผลเรื้อรัง ถ้ารุนแรงจะทำให้ปลายหลอดอาหารตีบตัน กลืนอาหารลำบาก ไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้มักเป็นๆหายๆ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับการปฏิบัติตัวเป็นสำคัญ

     อาการ

  • มักปวดแสบร้อนบริเวณหน้าอก เรอเปรี้ยว คลื่นไส้ แน่นลิ้นปี่
  • ไอเรื้อรัง เจ็บคอในตอนเช้าและมีกลิ่นปาก
  • เสียงแหบรู้สึกเหมือนมีอะไรจุกอยู่ในคอ มักเกิดขึ้นหลังการกินอาหารมื้อหลัก
  • กลืนอาหารและหายใจลำบาก

 การรักษาแค่พอบรรเทา ไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้มักเป็นๆหายๆ ทั้งนี้ขึนอยู่กับการปฏิบัติตัวเป็นสำคัญ

 

     สาเหตุ

   เกิดจากการปฎิบัติตัวผิด กิจวัตรประจำวันที่ซ้ำๆติดต่อกันเป็นเวลานาน ทำให้ระบบย่อยปรับเปลี่ยนไม่ทัน เช่นทานอาหารไม่เหมาะกับธาตุ กินอาหารมื้อเย็นในปริมาณมาก ดื่มจัด ชอบอาหารรสจัด เช่นมันจัด หวานจัด เผ็ดจัด ทานข้าวเสร็จแล้วนอนหรือนั่งทันที ไม่ค่อยเคลื่อนไหวเปลี่ยนอิริยาบถ อิ่มแล้วอาบน้ำทันที ทำให้กระเพาะและน้ำย่อยทำงานด้อยประสิทธิภาพลง อาหารไหลลงด้านล่างไม่ดี ท้องอืดง่าย เกิดกรดไหลย้อนแบบไม่รู้ตัว

   ตัวกระตุ้นอื่นๆเช่น ความเครียด โศกเศร้าเสียใจ ความโกรธ อารมณ์ขึ้นลงง่าย ปัจจัยเหล่านี้กระทบต่อระบบการย่อยอาหารทั้งสิ้น เนื่องจากการทำงานของระบบย่อยนั้นไม่ได้ทำงานเดี่ยวๆ จะมีตัวแปรหลายย่างเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย นอกจากนี้กายภาพของเราก็มีผลเช่น คนที่หลังโก่ง บิดงอ การทำงานของอวัยวะภายในบางอย่างมีปัญหา ก็มีผลต่อระบบดูดซึมและย่อยอาหารเช่นกัน

 

การดูแลตัวเองจากโรคกรดไหลย้อน 

  • อาหารเช้าสำคัญที่สุด เวลาย่อยและดูดซึมได้ดีที่สุดคือช่วง 07.00-09.00 น. เมื่อได้รับอาหารประสิทธิภาพในการดูดซึมจะสูงและเผาผลาญได้ดี
  • งดอาหารมื้อดึก เนื่องจากไม่ใช่เวลาของระบบย่อย ทำให้ท้องอืดเฟ้อ อึดอัดท้อง อาหารไม่ย่อย เมื่อเกิดขึ้นซ้ำเป็นประจำเป็นสาเหตุของกรดไหลย้อน ปวดเมื่อยร่างกาย มีกลิ่นปาก กลิ่นตัวและโรคอ้วนตามมา
  • หลีกเลี่ยง อาหารรสมันจัด หวานจัด เพราะอาหารกลุ่มนี้ทำให้กระเพาะอาหารบีบตัวลดลง กล้ามเนื้อหูรูดระหว่างกระเพาะและหลอดอาหารส่วนปลายหย่อน ด้อยประสิทธิภาพในการทำงาน
  • ดื่มน้ำเปล่าให้มากขึ้น โดยดื่มน้อยๆแต่บ่อยครั้ง งดน้ำอัดลมเพราะนอกจากมีน้ำตาลสูงแล้วจะเกิดแก๊สในกระเพาะอาหารได้ง่ายมาก
  • อย่าให้ท้องผูก ทานผักผลไม้ และเคี้ยวอาหารให้ละเอียด ถ้าท้องผูกเวลาเบ่งถ่ายทำให้ความดันในช่องท้องเพิ่มมากขึ้น
  • ออกกำลังกายสม่ำเสมอ นอกจากช่วยเรื่องระบบไหลเวียนเลือดแล้ว กล้ามเนื้อจะแข็งแรง และร่างกายโดยรวมสมดุล

 


แบ่งปันเนื้อหาเพจนี้ คลิกไอคอนและแชร์ได้เลยค่ะ