"ขมิ้นชัน" เป็นสมุนไพรที่ใครๆก็รู้จัก เพราะมักจะพบในชีวิตประจำวัน โดยนิยมใช้ปรุงแต่งกลิ่นและรสในอาหารหลายชนิด โดยเฉพาะอาหารทางภาคใต้ เช่น แกงเหลือง แกงไตปลา แกงกะหรี่ ไก่ทอดขมิ้น เป็นต้น ปัจจุบันมีงานศึกษาวิจัยพบว่า ขมิ้นชันใน"ภาคใต้ดีที่สุดในโลก" เพราะมีสารสำคัญคือเคอร์คูมินอยด์ (curcuminoids) และน้ำมันขมิ้นสูงกว่าประเทศอื่นๆที่มีการปลูกขมิ้นทั้งหมด คนสมัยก่อนมีการใช้ ขมิ้นเป็นยาภายนอกและยาภายใน ยาภายนอกช่วยรักษาแผล ทำให้แผลไม่เป็นหนอง เช่นเวลานาคต้องปลงผมเวลาอุปสมบท หลังโกนผมแล้วเขาจะทาหนังศรีษะด้วยขมิ้น เพื่อรักษาบาดแผลที่อาจจะเกิดจากใบมีดโกน
สรรพคุณชั้นดีของขมิ้น
- รักษาพิษแมลงสัตว์กัดต่อย ในสมัยก่อนผู้ใหญ่จะใช้ปูนที่กินกับหมากแต้ม เพราะต้องการฤทธิ์แก้พิษของขมิ้น(ผสมอยู่ในปูนที่กินกับหมาก) อีกทั้งฤทธิ์ของปูนจะช่วยให้ขมิ้นติดผิวได้ดีขึ้น
- ใช้ขมิ้นเป็นเครื่องสำอาง คนในแถบตอนใต้ของเอเชีย และแถบตะวันออกไกล ใช้ขมิ้นทาผิวหน้าทำให้ผิวหน้านุ่มนวล คนมาเลเซียและคนไทยสมัยก่อนจะใช้ขมิ้นในการอาบน้ำ ทำให้ผิวผ่องขึ้น ผู้หญิงอินเดียใช้ขมิ้นทาผิวหนัง เพื่อป้องกันไม่ให้ขนงอก คนพม่าเชื่อว่าถ้าใช้ขมิ้นผสมสมุนไพร ทาผิวเด็กสาวตั้งแต่ยังเล็กๆ จะทำให้เนื้อผิวละเอียด จนมีคำกล่าวว่า "ผิวพม่า นัยน์ตาแขก"
- กำจัดสารพิษออกจากร่างกาย
- ช่วยบรรเทาอาการท้องอืด ช่วยย่อยอาหาร รักษาโรคกระเพาะ
- บำรุงตับ รักษาระบบทางเดินหายใจที่ผิดปกติ หืด ไอ เวียนศีรษะ รักษาอาการปวดและอักเสบของไขข้อ
- มีฤทธิ์ลดการอักเสบ ลดปฏิกิริยาภูมิแพ้ เพิ่มภูมิคุ้มกันให้แก่ร่างกาย มีฤทธิ์ฆ่าเชื้อแบคทีเรียที่ทำให้เกิดหนอง
- มีฤทธิ์ขับน้ำดี ช่วยในการย่อยและป้องกันไม่ให้เป็นนิ่วในถุงน้ำดี
- การป้องกันการแข็งตัวของหลอดเลือด
- การชะลอความแก่
เป็นสารต้านมะเร็งและเนื้องอกต่างๆ พบว่า การกินอาหารผสมขมิ้นสามารถทำลายเชื้อไวรัสที่ผ่านมาทางอาหารได้ รวมทั้งสามารถป้องกันมะเร็งจากสารก่อมะเร็งต่างๆ และยังมีสรรพคุณในการต้านไวรัส โดยเฉพาะเชื้อ HIV อันเป็นต้นเหตุของโรคเอดส์
ขมิ้นยังมีคุณสมบัติ ในการ"กระตุ้นภูมิคุ้มกันและลดปฏิกิริยาการแพ้" คนที่เป็นโรคภูมิแพ้และเป็นหวัดบ่อยๆ กินขมิ้นชันทุกวันสุขภาพจะแข็งแรง และป้องกันหวัดได้ดี หากจะหันกลับมากินขมิ้นชันกันนั้น ควรเลือกขมิ้นชันที่ได้คุณภาพ คือ ต้องมีอายุอย่างน้อย 9-12 เดือน จึงสามารถขุดเหง้ามาทำยาได้ และต้องไม่เก็บไว้นานเกินไป จนน้ำมันหอมระเหยหายหมด และเก็บให้พ้นแสง เพราะแสงจะมีปฏิกิริยากับเคอร์คิวมิน อันเป็นสารสำคัญในขมิ้น
"ปัจจุบันขมิ้นแคปซูล" อยู่ในบัญชียาหลักแห่งชาติ และเป็นยาในงานสาธารณะสุขมูลฐาน จึงสามารถที่จะเบิกค่ายาจากระบบประกันได้ หากแพทย์และเภสัชกรไทยหันมาแนะนำผู้ป่วยให้ใช้ขมิ้นชันในการบรรเทาโรค และคนไทยช่วยกันใช้ผลิตภัณฑ์จากขมิ้นชัน ตลอดจนผลิตภัณฑ์จากสมุนไพรของไทย เศรษฐกิจและสุขภาพของคนไทยจะดีขึ้นแน่นอน
หากสนใจผลิตภัณฑ์ขมิ้นชันจากแก้วมณีสมุนไพรคลิ๊ก ที่นี่